ภัยร้ายโรค “มะเร็งตับ” “ตับอักเสบ” “ตับแข็ง” ไขมันพอกตับ ไวรัสตับ/B/C
หน้าที่สำคัญของตับ
ตับคือโรงงานใหญ่ ที่ไว้แปลรูปและย่อยอาหาร ตับมีหน้าที่เป็นร้อยๆอย่างที่ต้องทำในแต่ละระบบของร่างกาย เวลาเราทานอาหารเข้าไปในร่างกาย สู่กระบวนการดูดซึมและย่อยในระบบลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่ กระเพาะอาหาร แต่ร่างกายยังไม่สามารถนำไปใช้ได้ต้องผ่านการดูดซึมจากเม็ดเลือดแดงเม็ดเลือดดำท่อน้ำเหลืองก็จะดูดซึมไขมันเข้าสู่ตับเพื่อให้ตับเป็นผู้แปรรูป ไขมันเป็นพลังงาน คาร์โบไฮเดรต โปรตีนเปลี่ยนเป็นกรดอะมิโน แป้งและน้ำตาลเป็นกลูโคส วิตามิน เมื่อตับมีสารอาหารเหล่านี้ก็จะเริ่มแปรรูปเป็นพลังงาน ฉะนั้นคนที่ตับไม่แข็งแรงก็จะได้พลังงานที่ต่ำไม่พอใช้ต่อร่างกายแต่คนที่มีตับที่แข็งแรงก็จะสะสมพลังงานเหล่านี้ได้ดีร่างกายว่าจะแข็งแรงโดยเฉพาะอวัยวะภายในเช่นสมอง กระเพาะอาหาร หัวใจเป็นต้น
ตับเป็นคลังเสบียง ที่สามารถส่งไปใช้ในร่างกายได้เลยบางส่วน แต่อีกบางส่วนก็แบ่งเป็นพลังงานสำรองในรูปแบบของไกลโคเจนหรือไขมันที่เก็บไว้ใช้ในช่วงที่ร่างกายโอเวอร์โหลด เช่นในแต่ละวันเราทำงานเกินเวลาหรือใช้พลังงานต่อวันเกินพลังงานส่วนที่สำรองสามารถนำมาใช้ได้เลย แต่ถ้าวันไหนร่างกายของเราหมดพลังงานจริงๆจะรู้สึกง่วงเหงาหาวนอนอ่อนเพลียเป็นต้น
ตับเป็นผู้สร้าง โปรตีนอาบูมีน(ซ่อมแซมส่วนต่างๆได้อย่างรวดเร็ว)ที่เรียกว่าโปรตีนไข่ขาว ใน 60% ของโปรตีนอาบูมีน แล้วมีหน้าที่อย่างไร โปรตีนอาบูมีนมีลักษณะเป็นเมือกๆเหมือนไข่ขาวมีหน้าที่อุ้มน้ำไปให้ออกจากกระแสเลือดเมื่อน้ำไม่ได้ออกจากกระแสเลือดก็ไม่สามารถไปบวมในจุดต่างๆของร่างกายได้ ฉะนั้นเมื่อไหร่ก็ตามที่โปรตีนอาบูมีนขาดไป (ส่วนใหญ่ของการขาดไปเพราะเกิดจากไตอ่อนแอ กักเก็บไม่ได้จึงขับออกไป) ตับเป็นผู้ผลิตออาบูมีนเมื่อไหร่ที่ตับมีการอักเสบ หรือเป็นโรคตับแข็ง หรือเป็นมะเร็งตับ ตับก็ไม่สามารถที่จะผลิตอาบูมีนได้เหมือนเดิมร่างกายของเราก็เริ่มปวดตามค่า ตามข้อ อ่อนเพลีย
ตับเป็นผู้ผลิตน้ำดี และก็ไปฝากที่ถุงน้ำดี ถุงน้ำดีมีหน้าที่ทำให้น้ำดีเข้มข้น และน้ำดีก็ผลิตจากของเสียในร่างกายอีกด้วยก็ผลิตเป็นน้ำดีได้เหมือนรีไซเคิล ในขณะที่เราทานของทอดของมันหรือของที่มีไขมันเยอะๆเข้าไปน้ำดีก็จะออกมาย่อยไขมันเหล่านั้นให้เล็กลงและนำไปใช้เป็นพลังงาน ฉะนั้นเมื่อไหร่ก็ตามที่ท่อน้ำดีเริ่มมีปัญหาจากการทานอาหารเข้าไปเยอะๆของเราน้ำดีก็จะ อุดตัน หรือน้ำดีไม่ออกมา ก็จะกลายเป็นโรคท้องอืดท้องเฟ้อ ฉะนั้นถ้าใครไม่อยากให้น้ำดีมีปัญหาก็ควรจะลดอาหารมื้อใหญ่ๆมื้อเย็นลง เพื่อจะให้น้ำดีได้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และเข้มข้นขึ้นในการดูดซึมหรือการทำงานในการย่อยอาหารได้ดี
ตับเป็นผู้ขับของเสีย และสารพิษออกจากร่างกาย (ไม่ว่าจะด้วยการกินหรือทางผิวหนัง)เมื่อไหร่ก็ตามที่เราทานอาหารเข้าไปผ่านลำไส้และดูดซึมเข้าผ่านตับ พอผ่านตับก็จะแยกสารเคมีออก เช่นเราทานผักเข้าไปที่มีสารฆ่าแมลงฉีดทิ้งไว้ไม่ได้ล้างออกหมด เมื่อเราทานเข้าไปตับก็จะจัดการแยกสารอาหาร ยาที่กินเกินหรือสะสมมากกว่าที่ร่างกายต้องการ หรือกับของเสียในเลือด ทุกอย่างที่เรากินจึงเป็นภาระให้กับตับและไตทั้งหมด
โรคที่เกี่ยวเนื่องจากมะเร็งตับ
1) ท้องอืดท้องเฟ้อเรื้อรัง ส่วนหนึ่งมาจากกระบวนการย่อยไม่ดี เพราะตับมีหน้าที่ผลิตน้ำดีและผลิตพลังงาน และพลังงานนี้จะใช้เยอะมากในเวลาที่ย่อยอาหาร ถ้าตับไม่สามารถสร้างพลังงานได้เพียงพอ เช่นการนอนน้อย หรือดื่มแอลกอฮอล์ หรือการกินอาหารตอนดึกๆ ร่างกายก็จะอ่อนเพลียทำให้ไม่สามารถสร้างสารอาหารไปหล่อเลี้ยงกระบวนการย่อยได้ หรือย่อยไขมันได้ไม่ดีก็เลยทำให้เกิดกระบวนการการมีลมมีแก๊สทำให้ท้องอืดท้องเฟ้อ2) นิ่วในถุงน้ำดี มีอาการคลื่นไส้อาเจียนบ่อยๆอาจเป็นเพราะมีนิ่วไปอุดตันในท่อน้ำดี หรือทานอาหารที่มีไขมันสูงๆเนื้อสัตว์เยอะๆจะมีอาการแน่นจุกเสียดปวดชายโครงด้านขวา มีก้อนคอเลสเตอรอลในตับสูงมากเกินไปจึงเกิดการสะสมกลายเป็นก้อนนิ่ว และมีสารบิลลีลูบิลมากเกินไป บิลิรูบินเกิดจากการทำลายเม็ดเลือดแดงหรือจากม้ามจะกลายเป็นสารสีเหลืองแล้ววิ่งไปที่ตับ ตับก็จะขับออกไปพร้อมน้ำดี ปัญหาเกิดจากเมื่อไหร่ก็ตามที่เราเป็นโรคโลหิตจางเป็นโรคกระบวนการทำลายเม็ดเลือดแดงมากเกินไปเป็นความผิดปกติของร่างกายเจ้าสาร bilirubin นี้ก็จะมีมากในร่างกายทำให้กลายเป็นก้อนนิ่วได้เช่นกัน
3) มีไขมันไปพอกตับ จึงทำให้ฟังก์ชันของตับทำงานได้น้อยลง ทำให้อ้วนง่าย เหนื่อยง่าย การทานแอลกอฮอล์มาก การใช้ยามากเกินไปกินยาแบบพร่ำเพื่อ จึงทำให้ตับเริ่มอักเสบเริ่มมีไขมันเกาะตับ พังผืดรอบๆตับอักเสบและเกิดเป็นโรคตับแข็งแบบรักษาไม่ได้ในที่สุด
การปรับพฤติกรรมความเสี่ยงของโรคมะเร็งตับ
- ลดแอลกอฮอล์ลง
- ลดการทานเนื้อสัตว์ที่มีคอเลสเตอรอลสูง เช่นของทอด
- ควบคุมน้ำหนักไม่ให้มากจนเกินไป
- ลดอารมณ์ที่มากเกินพอดี โดยเฉพาะอารมณ์โกรธ
- การนอนพักผ่อนที่ไม่เป็นเวลา
- ช่วงหัวค่ำไม่ควรทำงานหนักจนเกินไป
- ลดการทานอาหารที่มีสารเคมีสูงๆ
สรุป ตับมีหน้าที่ดูแล และควบคุมการทำงานทุกระบบของร่างกาย เพื่อให้เกิดความสมดุล ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทานสารอาหารที่มีประโยชน์ สามาถอ่านความรู้เกี่ยวกับ มะเร็งตับ << คลิ๊กที่นี่หรืออ่านบทความเพิ่มเติม อาการเตือนจาก“มะเร็งตับ”
ขอขอบคุณขัอมูลจากเว็ปไซด์ “มะเร็งตับ”